ธุรกิจแพลตฟอร์ม Social E-Commerce

Social E-Commerce

โลกในยุคปัจจุบันสามารถเรียกได้ว่าเป็นยุคของการแพร่หลายทางสังคมออนไลน์ (Social Ubiquity)ประการแรกสืบเนื่องมาจากความก้าวหน้าของอุปกรณ์เคลื่อนที่ที่มาพร้อมกับแอพพลิเคชันที่รองรับการใช้งานในหลากหลายฟังก์ชัน สามารถตอบสนองการใช้งานของผู้ใช้ได้เป็นอย่างมาก อุปกรณ์เคลื่อนที่ที่เป็นที่นิยม อาทิiPhone, iPad, iPodTouch และ Blackberry ประการที่สอง การเจริญเติบโตของสื่อสังคมออนไลน์(Social Media) ที่มีกระแสความนิยมเพิ่มขึ้นในทุกๆ วัน เป็นสื่อกลางที่ไม่เพียงให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงสื่อได้อย่างไม่จำกัด แต่ยังคงให้ผู้บริโภคทำหน้าที่เป็นผู้สร้างข้อมูลข่าวสารไปพร้อม ๆ กับการแบ่งปันสิ่งเหล่านั้นให้กับผู้อื่นทั้งใน และนอกเครือข่ายของตนได้รับทราบ ปัจจัยทั้งสองประการนี้ก่อให้เกิดการขยายตัวของพาณิชยอิเล็กทรอนิกส์ (e-Commerce) เรียกว่า “Social E-Commerce”

Social Commerce เป็นการค้าออนไลน์ประเภทหนึ่งที่มีกลไกตามบริบท หรือพฤติกรรมของผู้บริโภคที่อยู่ในสังคมมีความต้องการเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มและต้องการความร่วมมือกันภายในกลุ่ม ปัจจุบันกระแสความนิยมใน Social Commerce มีเพิ่มมากขึ้น แม้แต่ Mark Zuckerberg ผู้ก่อตั้งสื่อสังคมออนไลน์ที่มียอดผู้ใช้สูงสุดอย่าง Facebook ได้กล่าวถึง Socical Comerce ว่า “ถ้าหากจะคาดเดาเทคโนโลยีที่จะมาแรงในอนาคต คงไม่พ้น Social Commerce เป็นแน่แท้



เครื่องมือหลักของ Social E-Commerce

Social E-Commerce เป็นสื่อกลางระหว่างผู้ขายปลีกรายย่อย และลูกค้า โดยมีคุณลักษณะพิเศษคือ ความสามารถในการสื่อสารโต้ตอบระหว่างกันได้ทันทีทั้งนี้เครื่องมือของ Social E-Commerce สามารถจำแนกได้เป็น 6 ประเภท ได้แก่

1.  การจัดอันดับและความคิดเห็นของลูกค้า (Customer Ratings and Reviews) เป็นเครื่องมือที่ขับเคลื่อนให้เกิดการซื้อขายที่สูงขึ้นได้โดยผ่านลูกค้าที่เคยใช้สินค้า/บริการ ซึ่งอาจเรียกว่า“ลูกค้าประจำ” เกิดความประทับใจในตัวสินค้าที่ซื้อไปหรือบริการที่ได้รับหลังการขายและเข้ามาแสดงความคิดเห็นผ่านประสบการณ์การใช้จริง ลูกค้าประจำยังเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยจัดอันดับสินค้าส่งผลให้การตัดสินใจซื้อสินค้าจากลูกค้ารายใหม่เป็นไปอย่างง่ายดายยิ่งขึ้นการจัดอันดับ และความคิดเห็นของลูกค้าเป็นเครื่องมือที่ร้านค้าออนไลน์ส่วนใหญ่ใช้ในการทำการตลาด เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ยินยอมที่จะซื้อสินค้า/บริการ เมื่อได้รับฟังแนะนำ หรือประสบการณ์การใช้สินค้า/บริการจากผู้คนรอบข้าง

2.  ข้อเสนอแนะของผู้ใช้ และการแนะนำผลิตภัณฑ์ (User Recommendations and Referrals) เป็นแนวความคิดพื้นฐานในการนำสื่อดิจิทัลที่มีอยู่มาดึงดูดให้ผู้ใช้มีส่วนร่วมในการทำธุรกรรมการซื้อ-ขาย โดยอาจมีข้อเสนอพิเศษให้แก่ผู้ซื้อที่มีการแนะนำ หรือบอกต่อเพื่อน เครื่องมือการทางการตลาดวิธีนี้ได้รับการตอบรับจากลูกค้าค่อนข้างสูง เพราะผู้แนะนำไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด และยังมีโอกาสที่จะได้ค่าตอบแทนจากร้านค้าอีกด้วย จัดเป็นการตลาดรูปแบบหนึ่งที่เน้นการพูดแบบปากต่อปาก (Word of Mouth) ที่รู้จักกันในชื่อ Viral Marketing เช่น การส่งข้อความใน Twitter การทำ Social Bookmarking หรือ การให้ค่าตอบแทนแก่ผู้ใช้ที่แนะนำผลิตภัณฑ์ต่อแก่ผู้อื่น เป็นต้น

3.  เครื่องมือการซื้อ-ขายทางสังคม (Social Shopping Tools) เป็นการนำสื่อเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันมา ดำเนินธุรกรรมการซื้อ-ขายสินค้า ซึ่งเป็นช่องทางในการขายสินค้า อีกช่องทางหนึ่งที่ได้รับความนิยม เช่น การเปิดร้านค้าบน Facebook และการทำธุรกิจประเภท Group-Buying ที่เรียกว่า “บริการซื้อของแบบกลุ่ม” เป็นต้น

4.  กระทู้ และชุมชนออนไลน์ (Forums and Communities) เป็นเครื่องมือออนไลน์ที่อยู่คู่อินเทอร์เน็ตมามากกว่า 40 ปีได้แก่ เว็บไซต์ต่าง ๆ โดยเฉพาะเว็บไซต์ที่เป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารสาขาต่าง ๆ เช่น การศึกษา การแพทย์ ธุรกิจ เป็นต้น โดยต่างใช้กระทู้ และชุมชนออนไลน์เป็นสื่อกลางติดต่อระหว่างผู้ใช้หลาย ๆ คน ทั้งนี้ในบางเว็บไซต์ผู้ที่จะเข้าถึงข้อมูล
ได้จะต้องสมัครเป็นสมาชิกก่อน โดยมีเงื่อนไขที่แตกต่างกันไปในแต่ละเว็บไซต์ เช่น พันทิป, Thaiseoboard เป็นต้น

5.  Social Media Optimization (SMO) ในยุคที่ Search Engine เป็นที่นิยมจนได้รับการกล่าวขาน ร้านค้าออนไลน์ต่างหันมาให้ความสนใจในกลยุทธ์การเพิ่มจำนวนคนให้เข้าสู่หน้าเว็บไซต์ร้านค้า โดยใช้ Search Engine เป็นสื่อกลาง ที่เรียกว่า “Search Engine Optimization (SEO)” มาถึงในยุคปัจจุบันที่สื่อสังคมออนไลน์มีบทบาทมากขึ้น กลยุทธ์เพื่อใช้สื่อสังคมออนไลน์ในการชักชวนผู้คนเข้ามามีส่วนร่วมในเว็บไซต์จนเกิดการทำธุรกรรมซื้อขายจึงเกิดขึ้น และเรียกกันว่า “Social Media Optimization (SMO)” ตัวอย่างของกลยุทธ์SMO เช่น การแทรกลิงค์เว็บไซต์ของร้านค้าผ่านวิดีโอบน Youtube หรือ การtag ชื่อเพื่อนที่อยู่ในเครือข่ายลงบนรูปภาพ

6.  การโฆษณาผ่านสื่อสังคมออนไลน์ (SocialAdvertising) ปัจจุบันผู้ใช้หลายคนเข้าใช้บริการสื่อสังคมออนไลน์เสมือนเป็นกิจกรรมหนึ่งที่ไม่สามารถขาดได้เมื่อเข้าสู่โลกไซเบอร์ดังนั้น การลงโฆษณาในสื่อสังคมออนไลน์สามารถผ่านสายตาผู้บริโภคได้ค่อนข้างมาก โดยเงื่อนไขในการทำโฆษณาจะแตกต่างกันออกไป เช่น ผู้ลงโฆษณาบน Facebook สามารถกกำหนดค่โฆษณาได้โดยความถี่ในการแสดงโฆษณาจะแปรผันตามงบประมาณที่ตั้งไว้

Fingo social e-commerce online ธุรกิจมาแรงแห่งปี 2020

Fingo คือแอปพลิเคชั่นช้อปปิ้งออนไลน์ตัวใหม่ล่าสุดในรูปแบบ Social E-commerce เปิดตัวที่ประเทศมาเลเซียในเดือนกรกฎาคม 2019 เพียง 5 เดือนแรกเท่านั้น ก็มียอด download สูงถึง 1 ล้านครั้ง ทั้งที่มาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดเนียเซีย และในขณะนี้ได้มาเปิดตัวที่ประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

Fingo application เป็นแพลตฟอร์มช้อปปิ้งสินค้าที่จะคล้ายกับ Shopee & Lazada (online shopping app) ที่เหล่า “Free Shopper” สามารถสั่งซื้อสินค้าได้ง่าย ๆ เพียงปลายนิ้ว แต่ถ้าหากคุณต้องการสร้างรายได้ผ่านทาง Shopee หรือ Lazada คุณจะต้องสต็อกสินค้าไว้เป็นจํานวนมาก และทํางานตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อโพสต์ขายสินค้าของคุณ ยังไม่รวมถึงตอนที่ลูกค้าต้องการคืนสินค้า และขอให้คืนเงิน เป็นปัญหาที่น่าปวดหัวของพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์อย่างมาก ซึ่งแอพฯของฟินโก้ สามารถปิดจุดอ่อนตรงนี้ไว้ทั้งหมดได้อย่างสมบูรณ์แบบ

สิ่งที่น่าสนใจของ Fingo นอกจากจะเลือกซื้อสินค้าได้ในราคาถูกแล้ว ผู้ที่สมัครทำธุรกิจกับฟินโก้ยังสามารถสร้างรายได้อย่างไร้ขีดจำกัด แค่เพียงแชร์ลิงค์สำหรับดาวน์โหลดแอพฯ สร้างเครือข่ายผู้บริโภค รับค่าตอบแทนตามแผนการตลาดในรูปแบบ MLM ได้ตลอดไป ที่สำคัญไม่ต้องรักษายอดรายเดือน เพียงลงทุนซื้อสินค้าครั้งแรกครั้งเดียว 1,599 บาท




วิธีง่าย ๆ ในการสร้างรายได้กับ Fingo app

- ลงทะเบียนเป็นสมาชิก Fingo โดยโหลด app จากลิงค์นี้  >>>click here<<<  พร้อมรับคูปองส่วนลด 50 บาทสำหรับซื้อสินค้า
- อัปเกรดสถานะสมาชิกเป็น Preferred Shopper (PS) โดยเลือกซื้อแพ็คเก็จสินค้ามูลค่า 1,599 บาท
- ท่านจะได้รับลิงค์แอพฯ ส่วนตัว แล้วนำไปโปรโมท หรือแชร์ต่อ เพื่อรับรายได้จากแผนการตลาดที่จ่ายให้กับสมาชิกฟินโก้

ระดับสมาชิก Fingo และผลประโยชน์ที่ได้รับ

- Shopper (Sp) เป็นตำแหน่งแรกเข้า ลงทะเบียนได้ฟรีผ่านลิงค์ของสมาชิก รับคูปองส่วนลด 50 บาท สำหรับช้อปปิ้งสินค้าต่าง ๆ ใน App ที่มีมากกว่า 20,000 รายการ แต่ไม่ได้รับลิงค์คำเชิญ ไม่สามารถสร้างรายได้ได้

- Preferred Shopper (PS) อัปเกรดมาจากตำแหน่ง Sp สามารถสร้างรายได้จากการแชร์ จะได้รับลิงค์คำเชิญเข้าแอพฯ โดยจะได้รับโบนัสค่าแนะนำ 375 บาทต่อสมาชิก PS ที่เข้ามาใหม่ รับ Cash back 10% จากยอดซื้อของสมาชิก Sp และรับ 10-15% จากยอดซื้อส่วนตัว นอกจากนี้แล้วยังได้รับคูปองส่วนลดมูลค่า 1,500 บาท สำหรับช้อปปิ้งในแอพฯ Fingo อีกด้วย

- Affiliate Marketer (AM) เป็นตำแหน่งที่ถูก upgrade ขึ้นมาจากระบบโดยอัตโนมัติเมื่อ PS มีสมาชิก PS ที่ติดตัวครบ 10 คน ได้รับเงินคืน 14% จากการช้อปปิ้งส่วนตัว และของ Sp ที่แนะนำ, Cash back จาก PS 4% และ 20% จากยอดรวม Cash back ที่ AM ใต้สายงานได้รับ ส่วนค่าแนะนำตรงได้รับ 750 บาท/PS  และ 375 บาทจากที่ PS แนะนำมา แล้วถ้าใต้สายงานเรามี AM ก็จะได้ 75 บาท/PS ที่เข้ามาใหม่ใต้ AM รหัสนั้นด้วย

- Affiliate Trainer (AT) เป็นตำแหน่งสูงสุดของสมาชิก Fingo รับค่าแนะนำตรง 1,013 บาท/PS, รับ 638 บาทจาก PS ใต้สายงานแนะนำ PS ใหม่, รับ 263 บาทจาก PS ใหม่ที่อยู่ใต้สายงาน AM และ 75 บาทจาก PS ใหม่ที่อยู่ใต้สายงาน AT นอกจากนี้ยังได้รับ Cash back จากการช้อปปิ้งของตัวเอง 15.6%, จาก Sp ที่แนะนำตรง 15.6%, จาก PS ที่แนะนำตรง 5.6%, รับ 20% จาก Cash back รวมที่ AM และ AT ใต้สายงานได้รับ



ไม่เพียงแต่คุณสามารถซื้อผลิตภัณฑ์คุณยังสามารถแบ่งปันผลิตภัณฑ์กับเพื่อน ๆ ของคุณบนแพลตฟอร์ม Fingo หลังจากเพื่อนของคุณซื้อผลิตภัณฑ์ที่คุณแบ่งปันเราจะตอบแทนคุณด้วยสิทธิประโยชน์บางอย่างเพื่อนที่คุณแบ่งปันจะได้รับผลประโยชน์มากขึ้น ในที่สุดคุณสามารถบรรลุอิสรภาพทางการเงินบนแพลตฟอร์มฟินโก้